
การรู้เท่าทันเทคโนโลยี คือ การรู้จักเทคโนโลยีตามความเป็นจริงทั้งคุณและโทษ เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม สาระสำคัญของการศึกษาเทคโนโลยี จึงมิใช่แค่การรู้จักทำและรู้จักใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ แต่อยู่ที่การพัฒนาความใฝ่สร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ และฝีมือสร้างสรรค์ ใฝ่ปรารถนาที่จะแก้ปัญหาและทำให้เกิดประโยชน์สุขแก่ชีวิตและสังคม เพียรพยายามนำเอาความรู้มาจัดสรรประดิษฐ์นวัตกรรมที่จะให้ประโยชน์สุขที่แท้จริง ที่เกื้อกูลแก่ชีวิต สังคม และระบบความสัมพันธ์ของธรรมชาติทั้งหมด
สิ่งที่แสดงถึงความเจริญ หรือเครื่องหมายแห่งความเจริญของโลกหรือของมนุษย์ ก็คือ เทคโนโลยี แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องเน้น ซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าตัวเทคโนโลยีเอง ก็คือ ท่าทีและการปฏิบัติต่อเทคโนโลยี เพราะยิ่งความเจริญทางเทคโนโลยีมีมากขึ้น ก็มีสิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้น นั่นคือ ภาระแก่สำหรับมนุษย์เอง ได้แก่ ภาระในการใช้และบำรุงรักษาซ่อมแซมแก้ไข ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งมีความซับซ้อน มีความละเอียดอ่อนมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งสร้างเทคโนโลยีซับซ้อนสูง ยิ่งเจริญ ก็ยิ่งต้องการคนที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น เพื่อมาใช้ควบคุมเทคโนโลยีให้เป็นไปอย่างราบรื่นได้ผลดี คุณภาพของคนที่เราต้องการ คือ ทั้งคุณภาพด้านความชำนาญเฉพาะทาง มีความรู้ ความชำนาญในทางเทคนิค และคุณภาพด้านคุณธรรมในจิตใจ ความมีสติรอบคอบ ไม่ประมาท มีความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัว และมีความเมตตากรุณา เห็นคุณค่าชีวิตของผู้อื่น อยู่ร่วมกับเทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ไม่ทำลายคุณภาพชีวิต สังคม และธรรมชาติแวดล้อมที่ตนอาศัยอยู่ จึงต้องมีการพัฒนาคนกันอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี หรือพัฒนาคนให้เหนือกว่าการพัฒนาเทคโนโลยี
มนุษย์เราสร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยีขึ้น เพื่อการทำมาหากินและการต่อสู้ป้องกันภัย เราจึงใช้เทคโนโลยีใน 2 ลักษณะ ด้านหนึ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิต และอีกด้านหนึ่งเพื่อสนองความต้องการในทางเห็นแก่ตัวและทำลายกัน
ทำอย่างไรจะให้มนุษย์สร้างเทคโนโลยี ชนิดที่สร้างประโยชน์ในทางพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสให้เราสามารถพัฒนาตน เช่น ช่วยทุ่นเวลาและแรงงานของเรา ให้ทำงานเสร็จโดยง่ายและเร็วไว ให้เรามีเวลาและแรงงานเหลือ เพื่อจะได้เอาเวลาและแรงงานนั้นไปใช้ประโยชน์ในการแสวงหาความรู้ ในการปฏิบัติธรรม อ่านหนังสือธรรม แนะนำให้ความรู้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเท่ากับว่า เทคโนโลยีจะสร้างโอกาสแก่เราในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้มากขึ้น





การพัฒนาจิตใจ เพื่อกำจัดสิ่งที่รังควานหรือทำลายจิตใจนี้มีอยู่มากวันหนึ่งๆ ไม่มีประมาณเลย มีแต่เรื่องสัญญาอารมณ์เครื่องผูกมัดรัดรึงบีบคั้นจิตใจอยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ที่ทำจิตใจให้มีความยิ้มแย้มแจ่มใสเบิกบานจิตใจ หรือให้ได้รับความสงบเยือกเย็นเป็นสุขได้บ้าง มีแต่อารมณ์ที่เป็นข้าศึกต่อจิตใจเป็นส่วนมาก เพราะฉะนั้นจึงต้องพัฒนาจิตใจเพื่อกำจัดสิ่งเหล่านี้ออก ให้จิตได้รับความสงบเยือกเย็น และสิ่งที่จะนำมาแก้ไขหรือซักฟอกสิ่งเหล่านี้ออกนอกจากธรรมแล้วไม่มี ที่นอกจากธรรมแล้วก็มีแต่เครื่องช่วยส่งเสริมให้จิตใจมีความรุ่มร้อนรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการเลย ดังนั้นจงให้เอาธรรมไปพัฒนาจิตใจ